ขนาดของแว่นตา กรอบแว่นตาจะมีขนาดต่างๆกันหลายขนาด ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของ
หน้าแว่นตาแต่ละช่อง มีตั้งแต่ความกว้าง 40 มม. ไปจนถึง 60 กว่า มม. ส่วนใหญ่เด็กเล็ก
มักจะใช้ขนาด 40 กว่ามม. แต่ถ้าเป็นเด็กโตหรือหนุ่มสาวก็ประมาณ 50 กว่ามม.
แต่บางรายที่มีรูปหน้าค่อนข้างใหญ่ อาจต้องใช้ขนาด 60 หรือ 60 กว่ามม. เพื่อลดการกดบีบ
ศีรษะบริเวณขมับจากขาแว่น เพราะทำให้ปวดศีรษะได้ และเห็นเป็นรอยขาแว่นบริเวณใบหน้า
หรืออาจเลือกกรอบแว่นตาที่มีขาแว่นตาเป็นสปริงเนื่องจากขาแว่นจะกางได้ มากกว่าธรรมดา
ลดการกดบีบบริเวณขมับศีรษะ การเลือกขนาดที่ไม่เหมาะสมกับใบหน้าเช่นเล็กเกินไปหรือ
ใหญ่เกินไป แทนที่จะช่วยเพิ่มบุคลิกภาพที่ดี กลับทำให้ดูไม่สวยงามได้เช่นกัน
รูปทรงของแว่นตา มีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ กลม รี สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม แปดเหลี่ยม และ
ก็จะมีลูกเล่นในแต่ละแบบต่างๆ กันออกไปอีก แต่ในปัจจุบันหน้าแว่นส่วนใหญ่จะเป็นทรงรีไข่
จะแตกต่างกันที่ลูกเล่น ลวดลาย บริเวณขาแว่นตา การเลือกรูปทรงแว่นควรให้เหมาะสม
เข้ากันได้กับใบหน้าทำให้เพิ่มบุคลิกภาพที่ ดีขึ้น
เลนส์สายตา ดังได้กล่าวมาแล้วว่าเลนส์มีหลากหลายชนิด ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเลือกให้เหมาะ
สมกับการใช้งาน เช่น ถ้ามีภาวะสายตามากๆ อาจเลือกเป็นเลนส์ย่อส่วนเพื่อจะได้ลดน้ำหนัก
ของแว่นตา ถ้าเป็นสายตาสูงอายุอาจเลือกเป็นเลนส์ชั้นเดียวสำหรับอ่านหนังสืออย่างเดียว
(มองไกลไม่ได้) หรือเลือกเป็นเลนส์สองชั้นหรือเลนส์ progressive สำหรับใส่ติดตาตลอด
เวลาไม่ต้องถอดแว่นตาเข้าๆ ออกๆ เวลาก้มหรือเงยก็จะเห็นชัดตลอด ในกรณีที่ต้องการใช้
แว่นกันแดดและมีสายตาอยู่ด้วย ก็อาจย้อมหรือเคลือบกันแดดบนเลนส์ หรือเลือกเป็นเลนส์
เปลี่ยนสีก็ได้เช่นกัน
ราคาแว่นตา เป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับผู้บริโภคที่จะต้องตัดสินใจว่าราคาแพงเกินไป
หรือไม่ เพราะแว่นที่ลดราคา 50%-60% นั้นอาจราคาแพงกว่าแว่นที่ลดราคา 10%-20% ก็ได้
และคุณภาพของแว่นก็อาจด้อยกว่า ยิ่งถ้ามีแลกแจกแถมด้วยก็ต้องพิจารณามากหน่อยว่าคุ้มค่า
กับการลงทุนหรือไม่ แนะนำให้เลือกแว่นที่มีความน่าเชื่อถือ มีรีวิวจากูกค้า เพราะแม้ว่าราคา
จะแพงกว่าบ้างแต่คุณภาพแว่นตาจะดีกว่าแน่นอน พูดง่าย ๆ คือ ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์สูง
สุดและไม่ถูกเอาเปรียบมากเกินไป